และบริการฮาลาล ปี 2554-2558 โดยยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะต้องร่วมมือกันหลายกระทรวง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมดประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าฮาลาลได้ 500,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี จากเดิมที่ส่งออกได้ปีละประมาณ 80,000 ล้านบาท
นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีเป้าหมายพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและบริการฮาลาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่น พัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นที่ยอมรับแก่ลูกค้ามุสลิมทั่วโลก และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มอาหารมุสลิม โดยนายชัยวุฒิ จะเร่งผลักดันโครงการนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยจะพัฒนาโรงงานอาหารในไทยให้ได้รับมาตรฐานถูกต้องตามหลักศาสนามากขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาการผลิตวัตถุดิบ และโรงเชือดสัตว์ให้ได้รับมาตรฐานฮาลาล
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 5 โครงการ คือ 1. การเสริมสร้างศักยภาพการผลิตสินค้าและบริการฮาลาล 2. การเสริมสร้างศักยภาพการตรวจรับรองฮาลาล 3. การพัฒนาศักยภาพการตลาดฮาลาลสู่สากล 4. การพัฒนาศักยภาพการวิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์ฮาลาล เพื่อสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ 5. การบริหารจัดการเพื่อสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาอุตสาหกรรมธุรกิจและการค้า ฮาลาล
นายเพ็ชร กล่าวว่า การผลักดันอาหารฮาลาลจะส่งเสริมให้มีการลงทุนร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการไทย กับนักลงทุนต่างชาติชาวมุสลิม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และเรียนรู้การผลิตที่ถูกต้อง เช่น ร่วมลงทุนเลี้ยงแกะ โรงงานอาหาร รวมทั้งจะช่วยให้ไทยสามารถผลิตอาหารฮาลาลส่งออกมากขึ้น เพราะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทั้งที่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งปัจจุบันไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในสินค้าอาหารฮาลาลยังไม่สูงมากนัก โดยปี 2552 ส่งออกอาหารฮาลาลได้ 80,000 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดอาหารฮาลาลโลก มีมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์
